ผ้าฝ้าย หรือ cotton
ผ้าฝ้ายที่แท้จริง หรือว่า cotton 100% มีวิธีสังเกตได้อย่างไร ขอยกตัวอย่างดังนี้ ผ้าฝ้าย ให้สังเกตที่ผ้าขนหนูที่เรานำมาเช็ดตัว ถ้าเป็นผ้าฝ้ายร้อยเปอร์เซนต์จะเช็ดตัวได้ง่ายหมดจด จะต่างกับผ้าเช็ดตัวที่เช็ดน้ำไม่ค่อยหมดนั่นคือผ้าฝ้ายผสมมานั่นเอง
ตัวอย่างในรูปเป็นเนื้อผ้าฝ้ายทอเครื่องชื่อ ผ้าฝ้ายชินมัย ชินไม ลักษณของเนื้อผ้าฝ้ายชินมัยจะเป็นเนื่อผ้าที่แน่นพอสมควร จะมีเส้นๆ ในตัวเนื้อผ้าตัวนี้จะสวยงามน ส่วนในการย้อมสีผ้าชินมัยในรูปจะเป็นสีที่สั่งย้อมพิเศษ
ผ้าฝ้าย ในท้องตลาดปัจจุบัน จะมีทั้งผ้าฝ้ายทอมือและผ้าฝ้ายทอเครื่อง (ผ้าฝ้ายทอจากโรงงาน) ผ้าฝ้ายผสม TC ในที่นี้เนื้อผ้าก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป
ผ้าฝ้ายทอเครื่อง ก็จะมีหลายเกรดแตกต่างกันไป ผ้าเนื้อห่าง ผ้าเนื้อแน่น ทั้งนี้ก็อยู่ที่ผู้ผลิตราคาสำหรับเนื้อผ้าก็จะแตกต่างกันไป ผ้าทอเครื่องจะมีเส้นที่ตรงมีความแม่นยำในการทอเพราะให้เครื่องจักรอุตสาหกรรมในการผลิตจะทำให้มีราคาถูกกว่าผ้าฝ้ายทอมือ
ผ้าฝ้ายทอมือ ต่างจากทอเครื่องตรงที่ใช้มือในการผลิต ผ้าฝ้ายทอมือก็มีหลากหลายชนิดอยู่ที่ความถนัดของช่างทอหรือฝ้าย เส้นฝ้าย ก็มีทั้งฝ้ายอีดมือ (หีบมือ) และฝ้ายที่ผลิตจากโรงงานเป็นเส้นแล้วนำมาทอ ฝ้ายอีดมือก็คือนำผลฝ้ายมาอีกเองทำให้เป็นเส้น เส้นฝ้ายก็จะมีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่อยู่ที่ข้อกำหนดในแต่ละลักษณะ ว่าจะต้องทำเสื้อผ้าฝ้าย หรืออื่นๆ สามารถแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบ ที่นิยมที่สุดจะเป็นเสื้อผ้าฝ้าย เพราะให้สีสันที่เป็นสีธรรมชาติ
สิ่งที่ควบคู่กับผ้าฝ้ายทอมือ นั่นคือการย้อมสี สีที่ย้อมจะเป็นสีที่ใช้ธรรมชาติ (ลักษณะคือสีที่จะออกไปทางเอิร์ธโทน สีที่ให้โทนอุ่นๆ) นั่นคือสีที่มาจากไม้ หรือผลไม้ ใบไม้ ที่คนในอดีตได้คิดไว้ ก็จะมีการหมักสี แล้วนำฝ้ายมาย้อมเอง ก่อนนำไปทอต่อไป
คุณสมบัติผ้าฝ้าย
ผ้าฝ้ายที่มาจากดอกฝ้ายธรรมชาติ จะมีคุณสมบัติคือมีความเหนียวแน่นละทนทาน โปร่งอากาศ (อยู่ที่การทอ) ดูดซับน้ำได้ดี (ซับเหงือได้ดี) ระบายอากาศได้ง่ายเนื่องจากพื้นผิดฝ้ายเป็นชนิดโปร่ง รีดง่ายอยู่ตัวเร็ว
วิธีสังเกตผ้าฝ้ายแท้
ผ้าฝ้ายเป็นหนึ่งในผ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัตินุ่ม เบา ระบายอากาศได้ดี และสวมใส่สบาย แต่เนื่องจากในปัจจุบันมีผ้าฝ้ายผสมหรือผ้าสังเคราะห์ที่คล้ายคลึงกันมากมาย ทำให้หลายคนอาจแยกไม่ออกว่าอะไรคือ “ผ้าฝ้ายแท้” ดังนั้นบทความนี้จะมาแนะนำวิธีสังเกตผ้าฝ้ายแท้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อผ้าได้อย่างมั่นใจ
1. การสัมผัสเนื้อผ้า
หนึ่งในวิธีง่ายที่สุดในการสังเกตผ้าฝ้ายคือการใช้มือสัมผัส
- ผ้าฝ้ายแท้ มักมีผิวสัมผัสที่นุ่ม ลื่นเล็กน้อย แต่ไม่มันเงา และมีความรู้สึกอบอุ่นเมื่อนำมาสัมผัสผิวหนัง
- ผ้าฝ้ายผสมหรือผ้าสังเคราะห์ จะมีความลื่นและเงากว่า หรืออาจรู้สึกหยาบหากมีส่วนผสมของเส้นใยสังเคราะห์สูง
2. การสังเกตเส้นใยผ้า
ใช้แว่นขยายส่องดูเส้นใยของผ้าอย่างละเอียด:
- ผ้าฝ้ายแท้ จะมีเส้นใยที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นมันวาว และมีลักษณะคล้ายเส้นด้ายเล็กๆ ที่ไม่เรียบเนียนสนิท
- ผ้าสังเคราะห์ มักมีเส้นใยที่ดูเป็นมันและเรียบเนียนเกินไป
3. การทดสอบการเผาไหม้
การเผาผ้าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยตรวจสอบชนิดของผ้าได้ (ควรทำในที่ปลอดภัยและระมัดระวัง)
- ผ้าฝ้ายแท้ เมื่อเผาจะไหม้เป็นเถ้า มีกลิ่นคล้ายกระดาษไหม้ และไฟดับง่าย
- ผ้าสังเคราะห์ จะละลายเป็นก้อนพลาสติก มีกลิ่นฉุน และไหม้ต่อเนื่อง
4. การซึมน้ำและการดูดซับความชื้น
- ผ้าฝ้ายแท้ มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี หากหยดน้ำลงบนผ้า น้ำจะซึมเข้าไปทันที
- ผ้าสังเคราะห์ น้ำจะกลิ้งเป็นหยดและซึมช้า หรือไม่ซึมเลย
5. การทดสอบการยืดหยุ่น
- ผ้าฝ้ายแท้ เมื่อลองดึงหรือยืดออกจะไม่คืนรูปทันที และมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าผ้าสังเคราะห์
- ผ้าสังเคราะห์ จะมีความยืดหยุ่นสูงกว่าและคืนรูปเดิมได้เร็วกว่าผ้าฝ้ายแท้
6. การยับของเนื้อผ้า
- ผ้าฝ้ายแท้ มักจะยับง่ายเมื่อขยำหรือพับ เนื่องจากไม่มีเส้นใยสังเคราะห์มาช่วยคงรูป
- ผ้าสังเคราะห์หรือผ้าฝ้ายผสม จะคงรูปและยับยากกว่าผ้าฝ้ายแท้
7. การตรวจสอบป้ายกำกับ
- ตรวจสอบป้ายระบุส่วนประกอบของผ้า หากเป็น Cotton 100% แสดงว่าเป็นผ้าฝ้ายแท้
- หากมีคำว่า Polyester หรือ Spandex อยู่ในส่วนประกอบ แสดงว่ามีการผสมเส้นใยสังเคราะห์
8. การดูดซับสีและการซีดจาง
- ผ้าฝ้ายแท้ เมื่อผ่านการซักหลายครั้ง สีจะจางลงตามธรรมชาติ
- ผ้าสังเคราะห์ สีจะคงทนกว่า หรืออาจมีการซีดเป็นจุดๆ
สรุป
การสังเกตผ้าฝ้ายแท้สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการสัมผัสเนื้อผ้า การดูเส้นใย การทดสอบด้วยน้ำ การยืดหยุ่น หรือแม้แต่การเผาทดลอง หากต้องการเลือกซื้อผ้าฝ้ายแท้ ควรเลือกจากร้านค้าที่มีความน่าเชื่อถือ และสังเกตป้ายกำกับของเนื้อผ้าเพื่อให้มั่นใจว่าได้ผ้าฝ้ายคุณภาพดีจริง ๆ